วิธีทำให้ผิวสวย หน้าใส

ผิวสวย หน้าใส อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากการดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และ ออกกำลังกายแล้ว เรายังสามารถบำรุงผิวด้วย เครื่องประทินผิวทั้งหลายที่ผลิตออกมา ให้เลือกใช้มากมาย

วันนี้จะขอแนะนำ วิธีที่จะทำให้ผิวสวย หน้าใส สบายกระเป๋า ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% นั่นคือ น้ำมันมะพร้าวนี่เองค่ะ

coconut1

น้ำมันมะพร้าวจะมาช่วยบำรุงผิวได้อย่างไร ?

น้ำมันมะพร้าวมีวิตามินอีที่มีอานุภาพมากกว่าวิตามินอีในเครื่องสำอาง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ป้องกันการเสื่อมโทรมของเซลล์จาก ขบวนการเติมออกซิเจน (Oxidation) ช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและทับถมกันจนทำให้ผิวแห้ง
ขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่จึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย ปราศจากริ้วรอยเหี่ยวย่น

น้ำมันมะพร้าวยังมีคุณสมบัติ

  • เป็นสารรักษาความชุ่มชื้น (Moisturizer) จึงช่วยให้ผิวหนังนุ่มและเนียน
  • ช่วยป้องกันและรักษาฝ้า และกระ
  • ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด

วิธีสวยง่ายๆ
ผิวกายสวยนวลเนียล    – นวดหรือชโลมตัวด้วยน้ำมันมะพร้าว
ผิวหน้าดูอ่อนวัย             – ใช้น้ำมันมะพร้าวทาทั่วใบหน้าก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน ผิวหน้าคุณจะดูสดใส เนียนนุ่มขึ้น (ไม่ต้องล้างออก) ทาพอให้ทั่วไม่ต้องเยิ้มนะคะ ^^

หากใครไม่ชอบกลิ่นของมะพร้าอาจจะเลือกใช้ผลิตที่ทำจากน้ำมันมะพร้าวในรูปแบบของ ครีม และโลชั่นจะทำให้ผิวพรรณนุ่มไม่แตกแห้งเป็นกระ หรือฝ้า ผิวจะเนียน ชุ่มชื่น ทั้งยังสามารถป้องกันผิวเสียจากแสงแดด และลมได้ด้วยค่ะ

**น้ำมันมะพร้าวในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อให้เลือก แต่น้ำมันมะพร้าวที่มีประโยชน์ต่อผิวหน้าเราจริง มีไม่กีชนิดนะคะ

***วิธีเลือกซื้อ – ควรเลือกซื้อน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี 100%

*****มิฉะนั้นเวลานำมาทำที่ผิวหน้า จะรู้สึกอึดอัดจนรอสวยไม่ไหว ต้องไปล้างทิ้งนะคะ

หาซื้อน้ำมันมะพร้าวได้ที่ http://sephira.lnwshop.com/product/12/organic-virgin-coconut-oil-90ml

ผิวสวยใส ด้วยสตรอเบอร์รี่สด

     ช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูสตรอเบอร์รี่กันแล้วนะคะ เดินไปเดินมาเห็นรถเข็นขายสตรอเบอร์รี่กันก็ แวะซื้อมากันซักหน่อย สตรอเบอร์รี่เนี่ยนอกจากจะไว้รับประทานกันแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผิวทั้งภายในและภายนอกด้วยนะคะ มาดูกันเลยค่ะว่าเราสามารถนำเจ้าสตรอเบอร์รี่น้อย สีแดงๆมาทำอะไรกันได้บ้าง

**************

strawberry garden

*************

– ขัดลอกเซลล์ผิว ผ่าซีกสตรอเบอร์รี่และถูลงบนผิวหน้าให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วล้างออก ผิวจะนุ่มลื่นขึ้นทันทีเลยล่ะ เพราะส่วนผสมของสตรอว์เบอร์รี่ที่ช่วยปรนเปรอผิวก็คือกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี่ ที่ช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้อย่างยอดเยี่ยม

– สตรอว์เบอร์รี่ครีมมาสก์ สูตรนี้น่ากินมากเลย เพราะส่วนผสมของมันก็คือสตรอเบอร์รี่ ครีม แล้วก็น้ำผึ้ง แต่อย่าเพิ่งกินมันเข้าไปล่ะ ลองทาลงบนหน้าดีกว่า ทิ้งไว้สัก 10 นาทีแล้วล้างออก ผิวคุณจะนุ่มสวยทันตา

– สตรอว์เบอร์รี่สครับสำหรับเท้า ถ้าผิวเท้าหยาบกร้านไม่น่าดู ลองปรุงสครับสูตรนี้เพื่อเอาใจเท้าคู่ใจเราสักหน่อย ส่วนผสมก็คือ สตรอเบอร์รี่ 8 ผล น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น 1 ช้อนชา บดผสมให้เข้ากันจนเป็นส่วนผสมข้นๆ แล้วถูนวดลงบนเท้า จากนั้นก็ล้างออก และรอดูเท้าที่นุ่มนวลขึ้น

– แก้ตาบวม ฝานสตรอเบอร์รี่เป็นชิ้นบางๆ และวางลงใต้ตา ผ่อนคลายสัก 10 นาทีแล้วเอาออก

– มาสก์กำจัดสิว ไม่ว่าจะเป็นสิววัยรุ่นหรือสิววัยผู้ใหญ่ ลองปราบสิวด้วยสูตรนี้ สตรอเบอร์รี่หั่น ½ ถ้วย และครีมเปรี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้าด้วยกันให้ดีแล้วทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก

– มาสก์สำหรับผิวมัน ผสมสตรอเบอร์รี่สดบดละเอียดกับโยเกิร์ตแบบธรรมดาอย่างละเท่ากัน ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก ความมันวาวของใบหน้าจะลดลง

ที่มา : http://women.sanook.com

เรื่องสิวๆ

20130201-135942.jpg

   เรื่องสิว ปัญหาไม่สิว จากสถาบัน Leonard Drake ได้คิดค้นวิธีการวิเคราะห์ผิวที่ลึกซึ้งมากขึ้น พบว่าเม็ดสิวตามจุดต่างๆ บนใบหน้าไม่เพียงแค่ปัญหาของผิวภายนอกเท่านั้น แต่ยังสามารถบอกได้อีกว่าตำแหน่งของสิวนั้น สะท้อนถึงความไม่ปกติของอวัยวะภายในส่วนใดบ้าง โดยแบ่งส่วนใบหน้า ลำคอ และแผ่นอกออกเป็น 14 โซน

 

******

โซนที่ 1 และโซนที่ 3
ถ้ามีปัญหาสิวบริเวณนี้ คุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ดังนั้นอาจต้องดื่มน้ำมากขึ้นหรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
 
โซนที่ 2
สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกี่ยวกับตับ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้) การทานอาหารรสจัด หรือ ทานอาหารดึกเกินไป
 
โซนที่ 4 และโซนที่ 10
ผิวบริเวณหูนี้ เป็นผลพวงของไต หากรู้สึกร้อนที่หู คุณอาจต้องลดการรับประทานเนื้อสัตว์ลง
 
โซนที่ 5 และโซนที่ 9
บริเวณแก้มทั้งสองด้าน โดยแก้มส่วนบนจะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง เหงือกและฟัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสูบบุหรี่จัด หรือ แพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรือ อาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือ โทรศัพท์มือถือไม่สะอาด
 
โซนที่ 6 และ โซนที่ 8
ตำแหน่งรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุมาจากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ อาจไม่เหมาะสม หรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือ พักผ่อนน้อย เปลือกตา หากมีความระคายเคือง อาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร
 
โซนที่ 7
ผิวบริเวณจมูกและริมฝีปาก แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากมีสิวบริเวณนี้อาจหมายถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด
 
โซนที่ 11 และโซนที่ 13
หากผิวบริเวณนี้แตกระแหง สามารถบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาของฟันกราม หรือ ปัญหาเกี่ยวกับฟัน
 
โซนที่ 12
สิวเรื่อรัง บริเวณคางนี้ สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องลำไส้เล็ก ที่มีผลจากการรับประทานของเผ็ด
 
โซนสุดท้ายโซนที่ 14
หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังเครียดสูง การวิเคราะห์สภาพผิวหน้าตามตำแหน่งต่างๆนี้ ทำให้รู้ได้ถึงสุขภาพภายในร่างกาย สิว หรือ รอยโรคต่างๆ ที่ใบหน้า จึงไม่ใช่แค่ปัญหาที่ผิวหนังเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงปัญหาสุขภาพของเราด้วย ดังนั้น การรักษาสิว หรือ ปัญหาด้านผิวหนัง จึงต้องควบคู่กับการดูแลบำรุงสุขภาพกายของเราด้วยไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การนอนหลับพักผ่อน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการลดภาวะความเครียด

ที่มา : sanook.com